
โหนกระแส EP1950 หมอแอร์โดนบุกจับค้ายาเสียสาว เอาชื่อคนตายสวมสิทธิ์รับยา พบคนเอี่ยวอื้อ ข่าวสะเทือนวงการแพทย์! “หมอแอร์” หรือบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นแพทย์ โดนบุกจับคาบ้านพักในคดี ค้ายาเสียสาว โดยใช้วิธีสุดแยบยล สวมสิทธิ์ชื่อคนตายเพื่อรับยามาจากคลินิกและสถานพยาบาล ก่อนกระจายยาให้กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในวงการบันเทิงและธุรกิจมืด
ในโลกที่ความไว้เนื้อเชื่อใจคือรากฐานสำคัญของวิชาชีพ “หมอ” คดีล่าสุดนี้กลับสั่นคลอนความเชื่อนั้นอย่างรุนแรง เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็น “หมอแอร์” ถูกเจ้าหน้าที่บุกจับคาหนังคาเขาในข้อหา ค้ายาเสียสาว โดยมีหลักฐานแน่นหนาว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการเบิกจ่ายยาอันตราย โดยสวมสิทธิ์ชื่อ “ผู้เสียชีวิต” มาใช้ในการเบิกยาแบบผิดกฎหมาย
ยิ่งขุด ยิ่งพบข้อมูลชวนช็อก เพราะคดีนี้ไม่ได้จบแค่ที่ “หมอแอร์” คนเดียว แต่กลับโยงใยไปถึงเครือข่ายคลินิก โรงพยาบาลเอกชน รวมถึงบุคคลในวงการบันเทิงและการเมืองที่เกี่ยวพันกับการใช้หรือสนับสนุนยาเสพติดชนิดควบคุม เช่น Rohypnol หรือที่เรียกกันว่า “ยาเสียสาว” และ Alprazolam ซึ่งถูกนำไปใช้ในทางผิดจรรยาบรรณอย่างโจ่งแจ้ง ดูหนังฟรีออนไลน์
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ส. ร่วมกับตำรวจ ปคบ. และฝ่ายสืบสวนของ บช.น. ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักย่านบางนา หลังจากสืบสวนพบความเคลื่อนไหวผิดปกติในการขอเบิกยาควบคุมหลายชนิด โดยมีการใช้ชื่อบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้วเป็นผู้ขอรับยา
ภายในบ้าน พบของกลางจำนวนมาก ได้แก่ โหนกระแส EP1950
ยา Rohypnol กว่า 1,200 เม็ด
ยา Alprazolam (Xanax) อีกกว่า 800 เม็ด
เครื่องพิมพ์ปลอมแปลงใบรับรองแพทย์
สมุดบัญชีรายชื่อผู้เสียชีวิตที่ยังมีชื่ออยู่ในทะเบียน
รายการสั่งยาจากคลินิกเอกชนกว่า 12 แห่ง
จากการสอบสวนเบื้องต้น “หมอแอร์” รับว่าเธอเคยทำงานในคลินิกแห่งหนึ่ง แต่ต่อมาได้ลาออก และเริ่มขบวนการสวมชื่อบุคคลเสียชีวิตเพื่อสั่งยาโดยใช้ระบบออนไลน์ของโรงพยาบาล และใช้ความรู้ทางการแพทย์ปลอมเอกสารให้ดูน่าเชื่อถือ
กรณีหมอแอร์ ไม่ใช่แค่การครอบครองยาเสพติดธรรมดา แต่เป็นการกระทำความผิดหลายกระทงซ้อน ซึ่งส่งผลต่อ ความมั่นคงของสาธารณสุข, ความปลอดภัยของสตรีและเยาวชน, และ ความเชื่อมั่นในวงการแพทย์ โดยมีบทลงโทษตามกฎหมายดังต่อไปนี้:
ครอบครองและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษโดยไม่ได้รับอนุญาต
มาตราอ้างอิง: พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 (และฉบับแก้ไข)
ยา Rohypnol (ฟลูนิเตรซแพม) และ Alprazolam จัดอยู่ในประเภท “วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท” ซึ่งการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ถือว่าผิดกฎหมาย
โทษ: จำคุก 10-20 ปี และปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท
หากพบว่ามีจำนวนมากและมีลักษณะ “เพื่อการค้า” จะถูกดำเนินคดีในฐานะ “ผู้ค้ายาเสพติดระดับกลางถึงหนัก”
มาตรา 265 – ประมวลกฎหมายอาญา หมอแอร์ใช้ เครื่องพิมพ์ใบรับรองแพทย์ปลอม เพื่อเบิกยา
โทษ: จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
หากปลอมเอกสารเกี่ยวกับสุขภาพถือเป็นความผิดร้ายแรงเพราะอาจส่งผลถึงชีวิตผู้รับยา
แอบอ้างเป็นแพทย์ / ประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาต
มาตรา 26 พ.ร.บ. วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525
หมอแอร์ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม แต่ใช้ความรู้ด้านการแพทย์ในทางที่ผิด
โทษ: จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 กรณีหมอแอร์ใช้ชื่อ “ผู้เสียชีวิต” ลงทะเบียนในระบบออนไลน์เพื่อเบิกยา ถือว่า นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์
โทษ: จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท
ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น
มาตรา 343 – ประมวลกฎหมายอาญา การแสดงตนเป็นคนตายเพื่อนำไปใช้หาผลประโยชน์ เช่น เบิกยา หรือเปิดบัญชี
โทษ: จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
การขยายผลจากคดีนี้ทำให้เห็นภาพของ “ขบวนการใต้ดิน” ที่ไม่ได้มีเพียงหมอแอร์เพียงคนเดียว แต่เชื่อมโยงกับผู้คนจากหลายวงการ ตั้งแต่แพทย์ เภสัชกร เจ้าของคลินิก ไปจนถึงบุคคลมีชื่อเสียง และผู้มีอิทธิพลบางรายที่อาศัยความสะดวกของระบบแพทย์เอกชนเป็นช่องโหว่
เครือข่ายแพทย์-เภสัชกร บทบาท: ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือในการสั่งจ่ายยา บางรายอาจยอมรับผลประโยชน์ เช่น “ค่าคอมมิชชั่น” หรือ “ค่าดำเนินการลับ”
ปลอมใบรับรองแพทย์โดยไม่ตรวจผู้ป่วยจริง สถานะปัจจุบัน: ป.ป.ส. อยู่ระหว่างสอบสวนแพทย์ 4 ราย และเภสัชกร 2 รายที่ปรากฏชื่อในรายการเบิกยา
มีการอายัดใบอนุญาต 1 รายเพื่อรอตรวจสอบทางจริยธรรมและวินัยแพทยสภา เจ้าของคลินิกเอกชน บทบาท เอื้อประโยชน์ในการใช้ชื่อสถานพยาบาลในการเบิกยา
ละเลยระบบควบคุม หรือร่วมกับหมอแอร์ในการออกเอกสารปลอม บางแห่งอาจเปิดให้เบิกยา “ล่วงหน้า” หรือ “แบบไม่ต้องตรวจ”
สถานะปัจจุบัน: ตรวจพบ 12 คลินิกในกรุงเทพฯ มีประวัติเบิกยาโดยใช้ชื่อผู้เสียชีวิต อยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมายและปิดใบอนุญาตชั่วคราวใน 3 แห่ง
คดีหมอแอร์ถือเป็นหนึ่งในคดียาเสพติดที่ซับซ้อนและอื้อฉาวที่สุดในรอบหลายปี เมื่อหญิงสาว รายหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็น แพทย์แต่ไม่มีใบอนุญาต ใช้ข้อมูลผู้เสียชีวิตจำนวนมากเพื่อเบิกยาควบคุมอย่าง Rohypnol และ Alprazolam ก่อนจะนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้า VIP ผ่านเครือข่ายออนไลน์ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นผ่านการสนับสนุนของบุคคลหลายฝ่าย ทั้งในวงการแพทย์ เภสัช เจ้าของคลินิก รวมถึงบุคคลมีชื่อเสียงที่เป็นลูกค้าประจำ
ยาเหล่านี้ถูกใช้ในลักษณะ “ยาเสียสาว” เพื่อทำให้เหยื่อหมดสติ ถูกควบคุม หรือใช้ในงานปาร์ตี้ผิดกฎหมาย ซึ่งทำให้คดีลุกลามไปถึงประเด็นการล่วงละเมิดทางเพศ การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน โหนกระแส
การจับกุมหมอแอร์เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ ปคบ. ขยายผลจากการล่อซื้อ พบหลักฐานชัดเจนทั้งยา ใบปลอม และฐานข้อมูลของเหยื่อที่เสียชีวิต ทำให้สามารถแจ้งข้อหาได้มากกว่า 5 กระทง รวมถึงความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, ปลอมแปลงเอกสารราชการ, ฉ้อโกง, ประกอบวิชาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการขยายผลไปยังผู้มีส่วนเกี่ยว ข้องในเครือข่ายทั้งหมด โดยคาดว่าอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าของคลินิก และ บุคคลสำคัญอีกหลายรายที่อาจถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม เว็ปหนังดูฟรี